โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจ


6.โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบการหายใจ

6.1. โรคถุงลมโป่งพอง ( ephysema)               
    โรคถุงลมโป่งพอง เป็นโรคที่เนื้อปอดถูกทำลายส่งผลให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนลดลง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการ หอบเหนื่อย หายใจลำบาก
สาเหตุของโรค สาเหตุของถุงลมโป่งพอง ที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ การสูบบุหรี่ นอกจากนั้นยังอาจเกิดจาก การสูดดมสิ่งที่เป็นพิษ เช่น มลภาวะ ไอเสีย ฝุ่น สารเคมี เป็นระยะเวลานาน ๆ

 

6.2.โรคปอดจากการทำงาน 
  6.2.1.โรคปอดดำ (Anthracosis) เกิดจากการสะสมผงถ่านคาร์บอนในปอดปริมาณมาก ซิลิโคซีส (Silicosisi) เกิดจากการหายใจเอาฝุ่นของซิลิคอนไดออกไซด์(Sillicon dioxide) เข้าไป 
( silica ซิลิกา   สารประกอบชนิดหนึ่ง   สูตรเคมีคือ   SiO2 จุดหลอมเหลว  1,700 oC จุดเดือด   2,230 oC  เป็นของแข็งไม่มีสีมีโครงสร้างผลึก 5 รูปแบบ  ในธรรมชาติอยู่ในรูปของทราย  คอวตซ์และหินบางชนิดใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตแก้ว  ผงขัด  วัสดุทนไฟ และผลิตภัณฑ์เซรามิก  เป็นต้น)




        6.2.2.แอสเบสโตซีส (Asbestosis) ซึ่งเกิดขึ้นจากการหายใจเอาฝุ่นในโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์
  ซึ่งมีกลิ่นและฝุ่นของสีน้ำยาเคลือบเงา 





   
6.3.โรคหืด คือ  โรคของหลอดลมที่มีการตีบหรืออุดตันอันเนื่องมาจากมีการอักเสบของหลอดลม  มีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อหลอดลม มีเสมหะที่เหนียวออกมามาโรคหืด มีลักษณะสำคัญ  3 ประการ

1.หลอดลมที่มีการตีบหรืออุดตันเป็นๆหายๆการตีบหรืออุดตันเกิดจาก  กล้าเนื้อหลอดลมหดตัว เยื่อบุบวม มีการอักเสบ เสมหะมาก
2.มีการอักเสบเรื้อรังของหลอดลมร่วมด้วย
3.หลอดลมมีสภาพไวผิดปกติต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ เช่น  ควันต่างๆ กลิ่นที่แรง สารก่อภูมิแพ้

6.4.การติดเชื้อระบบหายใจแบบเฉียบพลัน 
 
   6.4.1.โรคหวัด หรือ ไข้หวัด (Commom cold)





          upper respiratory tract infection URI เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งรวมเรียกว่า Coryza viruses ประกอบไปด้วย Rhino-viruses เป็นสำคัญ เชื้อชนิดอื่นก็มี Adenoviruses, Respiratory syncytial virus เมื่อเชื้อเข้าสู่จมูก และคอ จะทำให้เยื่อบุจมูกบวมแดง และมีการหลั่งสารหลั่งที่เป็นเมือกออกมา แม้ว่าโรคจะหายเองใน 1 สัปดาห์ แต่เป็นโรคที่นำผู้ป่วยไปพบแพทย์มากที่สุด โดยเฉลี่ยเด็กจะเป็นไข้หวัดปีละ 6-12 ครั้งต่อปี ผู้ใหญ่อาจจะเป็น 2-4 ครั้งต่อปี ผู้หญิงจะเป็นบ่อยเนื่องจากใกล้ชิดกับเด็กมากกว่า คนสูงอายุจะเป็นปีละครั้ง
 

6.4.2.ทอนซินอักเสบ (Tonsillitis)



         ทอนซิลอักเสบ (tonsillitis) เป็นภาวะอักเสบของต่อม ทอนซิล ส่วนคออักเสบ (pharyngitis) หมายถึง ภาวะอักเสบของเนื้อเยื่อในลำคอที่อยู่บริเวณหลังช่องปากเข้าไป บางครั้งภาวะทั้งสองอาจเกิดขึ้น พร้อมกันได้ บางครั้งอาจเกิดเพียงทอนซิลอักเสบหรือคออักเสบอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยทั่วไปเมื่อพูดว่าต่อมทอนซิลอักเสบ จะหมายความถึงการอักเสบของต่อมทอนซิลซึ่งโดยมากเป็นทั้งสองข้าง และมักมีอาการอักเสบของหลอดคอหอยร่วมด้วย ต่อมทอนซิลอักเสบแบ่งเป็นชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง
สาเหตุ ต่อมทอนซิล อักเสบเฉียบพลัน อาจเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย เด็กก่อนวัยเรียนมักจะเกิดจากเชื้อไวรัส และติดต่อกันได้ง่าย เพราะไม่รู้จักวิธีป้องกันการติดต่อของโรค สำหรับในเด็กโตและผู้ใหญ่ มักจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่เป็นเชื้อกลุ่มเดียวกันกับที่ทำให้เป็นโรคหวัด หรือเชื้อที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบหายใจตอนบน เชื้อไวรัสที่พบบ่อยที่สุด คือ rhinovirus และ coronavirus ซึ่งอาการมักไม่รุนแรง ส่วนเชื้อ adenovirus และ herpes simplex virus พบว่าเป็นสาเหตุได้ไม่บ่อย แต่มีความสำคัญเพราะมีอาการรุนแรง ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรกอาจมีอาการคออักเสบและทอนซิลอักเสบได้เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของ โรคพบได้หลายชนิด ร้อยละ 15 เกิดจากเชื้อสเตร็ปโตค็อคคัส S. pyogenes ส่วน group C และ G อาจเกิดการระบาดโดยปนเปื้อนในอาหารได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น